สัตว์ทะเล 12 ชนิด ป้องกัน รักษาเบื้องต้นยังไง?

หน้าร้อนนี้เราทุกคนจะไปเที่ยวทะเลและพักผ่อนบนชายหาด สัตว์ทะเล การดำน้ำตื้น อย่างไรก็ตาม หากคุณไปทะเลหรือชายหาด คุณควรระวังสิ่งมีชีวิตในทะเลที่มีพิษด้วย เพราะหากไปเดินเล่นหรือไปดำน้ำในที่ที่มีจำนวนมาก ก็จะโดนกัด ทุบ ข่วน หรือสัมผัสจนเจ็บได้ หรือเผลอกินสัตว์มีพิษ ทริปนี้คงสนุก วันนี้เราจะบอกคุณเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในทะเลที่มีพิษและวิธีการปฐมพยาบาล การป้องกันและรับมืออันตรายเมื่อออกทะเล

ขนนกทะเล (Sea Feather) สัตว์ทะเล

ขนทะเลเป็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายพืช อยู่รวมกันเป็นฝูง มีหลายชนิด เช่น แบบขนนกและแบบเฟิร์น มักพบตามแนวปะการัง หมู่เกาะ และเกาะตามชายฝั่ง ท่าเรือรวมถึงเศษขยะที่ลอยอยู่ในทะเล เมื่อขนทะเลสัมผัสกับผิวหนังพิษจะซึมผ่านผิวหนังทำให้เกิดอาการคันและแสบร้อน

การป้องกันและรักษา หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับขนทะเล หากได้รับพิษ ให้ล้างบริเวณที่สัมผัสด้วยแอลกอฮอล์ แล้วประคบด้วยน้ำแข็งหรือน้ำเย็น หากคุณมีอาการรุนแรงจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างเร่งด่วน

ปะการัง (Coral)

ปะการังเป็นกลุ่มสัตว์ทะเลขนาดใหญ่กว่า 750 สายพันธุ์ ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามลำพัง ปะการังบางชนิดมีหนามและส่วนที่แหลมคม พิษภายใน ระคายเคืองต่อผิวหนัง การอยู่ใกล้หรือสัมผัสกับพื้นผิวมีคมอาจทำให้เกิดพิษ นอกจากนี้อาจเกิดอาการบวม แดง และผื่นขึ้นได้

การป้องกันและรักษา ห้ามเดิน หรือเหยียบปะการัง หรือดำน้ำในแนวปะการัง หินปะการังของเขาแข็งและแหลมคมจนทำให้คุณบาดเจ็บได้ นอกจากนี้ ปะการังมักเป็นที่อาศัยของแบคทีเรีย บาดแผลจะหายช้า ดังนั้นควรล้างด้วยน้ำสะอาดหรือแอลกอฮอล์โดยเร็วที่สุด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีเศษปะการังติดอยู่ ต้องฆ่าเชื้อและหากเป็นแผลกว้างและลึกต้องรีบพาไปพบแพทย์

ปะการังไฟ (Fire Coral) สัตว์ทะเล

Fire Coral ไม่ใช่ปะการังจริง อย่างไรก็ตามมันเป็นสัตว์ทะเลที่มีขนทะเลและมีพิษด้วย Fire Coral มาในสามรูปแบบ: platy, clumpy และ branchy และโดยทั่วไปมีสีเหลืองอ่อนหรือสีน้ำตาล มักอยู่ปะปนกับสัตว์อื่นในแนวปะการัง การสัมผัสกับปะการังไฟ ทำให้เกิดการแสบร้อน บวม แดง และแสบร้อนที่ผิวหนังที่สัมผัส

การรักษา: ล้างแผลด้วยน้ำส้มสายชูหรืออีกครั้งด้วยอะลูมิเนียมซัลเฟต หากส่วนที่สัมผัสกับปะการังคือมือของคุณ อย่าเช็ดหน้าหรือให้เข้าตา สารพิษจากปะการังไฟที่ตกค้างจะทำให้เกิดการระคายเคือง

แมงกะพรุน (Jelly Fish)

ยาพิษที่ใช้ฆ่าเหยื่อหรือทำให้มึนงงก่อนที่จะกินมัน พิษของแมงกะพรุนทำให้เกิดอาการคัน ผื่นแดง บวม เจ็บ ซึ่งอาจทำให้เกิดแผลเรื้อรังได้

การป้องกันและรักษา หลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำทะเลที่มีแมงกะพรุนชุกชุม หรือหลังเกิดพายุเพราะน้ำทะเลมีลูกพิษแมงกะพรุนลอยไปมา หากคุณถูกพิษจากแมงกะพรุนต่อย ให้ใช้น้ำส้มสายชูทำความสะอาดบาดแผล หลังจากนั้นคุณต้องไปพบแพทย์โดยด่วน อีกทั้งตามตำราที่ใช้กันบ่อยๆ คือ นำผักบุ้งมาบดพอกส่วนที่สัมผัสแมงกะพรุน ช่วยลดอาการต่างๆ

ดอกไม้ทะเล (Sea anemone)

ดอกไม้ทะเลเป็นสัตว์ที่มีลำตัวนิ่ม หนวดเส้นปาก ด้านล่างเป็นพื้นผิวที่ยึดติดกับหินและปะการังหรือฝังตัวอยู่ในพื้นทะเลรอบ ๆ โคลนและทราย การสัมผัสกับหนวดดอกไม้ทะเลที่มีพิษโดยบังเอิญ ทำให้เกิดผื่นแดง ในรายที่เป็นมากอาจทำให้บวมแดง ชา คลื่นไส้ อาเจียน ขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของแต่ละคน

การรักษา: ใช้น้ำส้มสายชูทำความสะอาดบาดแผล ลองเอาเมือกและหนวดบางส่วนออกจากดอกไม้ทะเล หากอาการแย่ลงควรไปพบแพทย์ทันที

บุ้งทะเล (Fire worms)

ทากทะเลเป็นหนอนที่แบ่งส่วนในสกุลเดียวกับเมเปิลหรือแมงกะพรุน แต่ลำตัวสั้น ทากทะเลมีขนยาวมาก ขนแปรงของทากจะแข็งและหลุดง่าย สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ อาจทำให้เกิดอาการคันได้

การป้องกันและรักษา หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับทากทะเลทางผิวหนัง อย่าจับทากทะเลด้วยมือเปล่า หากสัมผัสทากทะเลให้ถอนขนผักบุ้งออกให้หมด จากนั้นใช้ครีมหรือคาลาไมน์ทาเพื่อบรรเทาอาการคันและป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติม

เพรียงหิน (Rock Barnacle)

เพรียงเป็นสัตว์จำพวกเดียวกับกุ้งและปู อาศัยอยู่ตามโขดหิน ท่าเทียบเรือ โป๊ะ และท่าหอย การเลี้ยงหอยนางรม เพรียงเป็นสัตว์ที่พบได้ทั่วไปและชุกชุมตามชายฝั่งทะเล

การป้องกันและรักษา ระวังหนามแหลมคมบนตัวเพรียง หากถูกเพรียงกัดขณะเดินบนโขดหินหรือดำน้ำหาหอย ให้ทำความสะอาดแผลและทาน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น ยาแดง และหากเลือดออกมากให้ไปพบแพทย์ทันที เย็บปิดแผล.

ปู (Crab)

ปูส่วนใหญ่มีกรงเล็บที่แข็งแรง สามารถใช้เพื่อทำให้เคลื่อนที่ไม่ได้และทำร้ายศัตรู โดยเฉพาะปูทะเล ปูม้า และปูใบ้ตัวใหญ่ๆ แมงกะพรุนมีเปลือกแข็งและกรงเล็บที่แข็งแรงมาก เมื่อรัดแน่นแล้วจะไม่หลุดออกง่าย นอกจากจะเอามาประกบระหว่างปูแล้ว การทานปูที่ไม่สดและมีตะกอนเกาะ เช่น ปูม้า ปูทะเล แบคทีเรียในปูก็ทำให้เกิดท้องเสียได้เช่นกัน การกินปูมีพิษ ทำให้ริมฝีปาก ลิ้น คอ ใบหน้า และปวดท้องบวม และความตกใจ

การป้องกันและรักษา อย่ากินปูที่ไม่คุ้นเคย หากกินปูมีพิษให้รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด และนำตัวอย่างปูพิษกลับมา

แมงดาทะเล (Horse-shoe crab)

แมงดาทะเลที่พบในน่านน้ำของประเทศไทยมีอยู่ 2 ชนิด คือ แมงมุมจาน และแมงดาทะเล ซึ่งทั้งสองชนิดนี้อาศัยอยู่ในแหล่งอาศัยที่แตกต่างกัน แมงดาทะเลอาศัยอยู่ตามพื้นทะเล วางไข่ตามหาดทราย แมงมุมแดงอาศัยอยู่ในก้นทะเลที่เป็นโคลนและลำคลองในป่าชายเลน กินแมงดาทะเลที่มีพิษแม้ว่าไข่และเนื้อจะสุกแล้วก็ตาม แต่ก็ยังอาจเป็นอันตรายได้ พิษแมงดาทำให้วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และหัวใจเต้นเร็ว ปากชาพูดไม่ได้ แขนขาอ่อนแรง กล้ามเนื้อไม่ทำงาน หมดสติ และอาจเสียชีวิตได้

จะทำอย่างไรถ้าคุณกินแมงดาทะเลที่มีพิษควรล้างท้องให้อาเจียนและควรไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

เม่นทะเล (Sea urchin)

เม่นทะเลเป็นสัตว์ที่มีหนามยาวจำนวนมากบนผิวลำตัว ปลาชนิดนี้มีมากในแนวปะการังนอกชายฝั่งของประเทศไทย เม่นดำที่มีหนามยาว เขาดำน้ำและเล่นในทะเลกับเม่นทะเล คุณอาจเหยียบหรือนั่งบนหอยเม่นที่โดนคลื่นซัด หนามเม่นทะเลบอบบางและหักง่าย แต่เมื่อฝังอยู่ในร่างกายแล้ว ก็ไม่สามารถแยกแยะได้ บางชนิดมีพิษที่อาจทำให้เกิดการอักเสบ แดง บวม เจ็บปวด และมีไข้ เงี่ยงหอยเม่นทำให้เกิดอาการบวมแดง ชาจะอยู่ได้ประมาณ 30 นาที ถึง 4-6 ชั่วโมง และหนามจะสลายตัวภายใน 24 ชั่วโมง

การป้องกันและการรักษา เม่นทะเลโดยทั่วไปไม่เป็นอันตรายต่อนักดำน้ำ อย่าเข้าใกล้หรือสัมผัสเขาเมื่อเขาถูกหนามหอยเม่นต่อย โดยการบีบผิวหนังหรือแช่แผลในน้ำร้อนประมาณ 50 องศาเซลเซียส จะทำให้หนามแตกเร็วขึ้น อย่างไรก็ตามหนามบางชนิดไม่สามารถย่อยได้ ควรใช้วิธีผ่าเท่านั้น

ปลาปักเป้า (Puffer fishes)

เป็นที่รู้กันว่าปลาปักเป้ามีพิษ โดยเฉพาะต่อไข่ ตับ ลำไส้ ผิวหนัง และเนื้อสัตว์ กินปลาปักเป้า หากปรุงไม่ถูกวิธี สารพิษภายในเนื้อปลาทำให้เกิดการปนเปื้อนของเนื้อปลา การกลืนกินทำให้เกิดพิษ อาจรุนแรงถึงขั้นเจ็บหน้าอกจนริมฝีปากชา คันตามผิวหนังและตา คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย และขาอ่อนแรงหรือเป็นอัมพาตได้ ปลาปักเป้ามีพิษ ได้แก่ ปลาปักเป้าดำและปลาปักเป้าโดเรียนท์

การป้องกันและรักษา หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแปลกๆ หากไม่แน่ใจ ให้ถามชาวประมงหรือในพื้นที่ หากได้รับพิษแล้วพยายามทำให้อาเจียนด้วยการรัดคอ หรือผสมผงถ่านกัมมันต์กับน้ำแล้วดื่มเพื่อดูดซับสารพิษที่ตกค้างในกระเพาะอาหารไม่ให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย

ปลากระเบน (Ray)

ปลากระเบนเป็นปลากระดูกอ่อน มีหางยาวมีหนามแหลมที่โคนหาง ป้องกันตัวเอง ขณะเดินไปตามชายฝั่ง คุณอาจเหยียบรังสีที่ปกคลุมพื้นมหาสมุทร การต่อยอาจเจ็บปวดและอาจทำให้ช็อกหมดสติหรือเสียชีวิตได้

การปฐมพยาบาลเป็นขั้นตอนแรก ห้ามเลือดที่บาดแผลและดูว่ามีหนามพิษหลงเหลืออยู่หรือไม่ ทั้งนี้เนื่องจากพิษในเงี่ยงปลากระเบนเป็นการสลายโปรตีนด้วยความร้อน ดังนั้นการแช่แผลในน้ำอุ่นในปริมาณที่พอทนได้เป็นเวลา 30 ถึง 60 นาทีจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้ และหากเธอมีอาการแพ้ยาแก้ปวดควรไปพบแพทย์ทันที